วันนี้เราก็จะมาติดตามประเด็น เอลนีโญลากยาว โลกเดือดร้อนสูงเกิน 1.5 องศาฯ จากผลกระทบ ที่มาจากปรากฏการณ์ เอลนีโญตั้งแต่ ปีที่แล้ว จนมาถึงต้นปีนี้ สถานการณ์ มันจะกระทบรุนแรง และส่งผลอย่างไรบ้าง เพราะว่าตอนนี้ เราเตรียมที่จะเข้าสู่ ช่วงหน้าร้อน อย่างเป็นทางการ เป็นช่วงที่ปลายเดือน กุมภาพันธ์นี้ เอลนีโญ จะส่งผลในด้านใดบ้าง เดี๋ยวเรามาติดตามไป พร้อมกันพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝาก ไปติดตาม จีนเขย่าโลก คู่แข่งแก้เกมสู้ กันด้วยนะคะ และในวันนี้แอดมินก็ ต้องขอขอบคุณ Disney777 ที่สนับสนุนบทความ ในวันนี้ด้วยค่ะ
เอลนีโญลากยาว โลกเดือดร้อนสูงเกิน 1.5 องศาฯ
เตือนไทยหนัก
ปรากฏการณ์นี้เนี่ยเค้ามีกำลังแรง แต่ระดับถึงจุดประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมา การที่ปกติแล้วสี่เดือนถึงหกเดือนต่อมา นั่นคือผลของที่จะตามมา เพราะฉะนั้นมันจะตามมาด้วยอะไร อุณหภูมิจะสูงขึ้นจากนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วมีการคาดการณ์ด้วยนะคะ ว่ามีนาเมษาจะร้อนมาก
และจะร้อนจัด แล้วจะสูงกว่าปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือว่าเรื่องน้ำ การเกษตร ในขณะที่ปีนี้เองข้าวราคาดีมาก การเกษตรก็ทราบดีถึงเรื่องนี้ว่า เกษตรกรเกินไปกว่าแผนประมาณเกือบ 200% ขณะที่เข้าราคาสูงเค้าปลูกกันปริมาณน้ำก็ปรับแผนว่า ตอนแรกเค้าให้แค่ประมาณ 300 ไร่
แต่ถ้าปลูกเกิน 100,000 ก็ให้อีกสองเท่าแต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรากังวลก็คือพอทำนาปังเสร็จ แล้วในกรณีที่เกี่ยวในลักษณะ นี้ไวยากรณ์ก็จะทำต่อคือเชื่อมั่นว่าทำต่อแน่ เพราะว่าราคาเข้าไม่เคยเกินในรอบ 15 ปี ยังมีนัยสำคัญทีนี้ในกรณีนี้เนี่ยความร้อน
ที่ส่งมามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพืชพรรณธัญญาหาร มันเรื่องของน้ำกินน้ำใช้ด้วย ก็คือการที่มีน้ำกร่อยแล้วก็เตรียมรับสถานการณ์ในเดือนมีนาคม แล้วก็จะมาอีกทีนึงในเดือนกรกฎาคม สองช่วงนี้ที่น้ำกร่อย จะมาหากรุงเทพมหานคร และแน่นอนว่าหลังจากนี้ เป็นเรื่องที่การบริหารจัดการหาน้ำ มันเหมือนอยู่บนเส้นด้ายเพราะว่าสมมุติว่าถ้าณวันที่ 1 พฤษภาคมปริมาณน้ำขนาดนี้ กรมชลประทานคาดการณ์ว่า
จะเหลือประมาณ 4,000 ล้านถ้าไม่มีนาปังรอบสองถ้าทำมันจะหายไปประมาณ 2,000 ล้าน เพราะฉะนั้นก็หวังว่าน้ำบ่อหน้าก็คือฝน เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการฝนปีหน้า เราลองคิดดูว่ามันอยู่บนเส้นด้าย แม้ว่าโอกาสที่เรากลับไปแล้ว ฝนตกเลยเพราะว่ามันยังมีอีกสี่ถึงหกเดือนที่ฝนตามมา เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เรียนเบื้องต้นว่าเกษตร จะเสียหายเยอะในปีนี้ข้าวก็ประมาณ 30 ถึง 40% ปกตินาปรางเราจะได้
เข้าประมาณซัก 10 ล้านขั้นต่ำ แต่คาดว่าน่าจะได้ประมาณ 5 – 7 ล้านตัน เพราะไม่เห็นชัดเจนเลยว่าความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการต้องการใช้น้ำสำหรับการปลูกข้าว แต่ปริมาณน้ำในปีนี้อาจจะน้อย ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากเอวโย่โดยตรง